วันเดินทางไป - กลับ | ผู้ใหญ่ท่านละ | พักเดี่ยวเพิ่มเงิน | ราคาเด็กท่านละ | |
---|---|---|---|---|
22 พ.ย. 67 - 24 พ.ย. 67 | 14,900 บาท | 2,900 บาท | สอบถามเพิ่มเติม | จอง |
05 ธ.ค. 67 - 07 ธ.ค. 67 | 15,900 บาท | 2,900 บาท | สอบถามเพิ่มเติม | จอง |
08 ธ.ค. 67 - 10 ธ.ค. 67 | 15,900 บาท | 2,900 บาท | สอบถามเพิ่มเติม | จอง |
20 ธ.ค. 67 - 22 ธ.ค. 67 | 14,900 บาท | 2,900 บาท | สอบถามเพิ่มเติม | จอง |
30 ธ.ค. 67 - 01 ม.ค. 68 | 17,900 บาท | 2,900 บาท | สอบถามเพิ่มเติม | จอง |
05.00 น. คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 อาคารผู้โดยสายขาออก ประตู 2 Row C/D เคาน์เตอร์สายการบินไทย เจ้าหน้าที่บริษัทฯ คอยต้อนรับและอำนวยความสะดวกในการเช็คอิน
07.05 น. เดินทางโดย สายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG020 ออกเดินทางสู่ จังหวัดอุบลราชธานี (Ubon Ratchathani) (บริการอาหารและพักผ่อนบนเครื่องบิน)
08.15 น. เดินทางถึง สนามบินอุบลราชธานี หลังจากรับสัมภาระแล้ว นำท่านเดินทางโดยรถตู้ สู่ ช่องเม็ก แขวงจำปาสัก (ระยะทาง 150 กม./ 2.30 ชม.) ถึงด่านพรมแดนช่องเม็ก ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองท่องเที่ยว ไทย-ลาว ก่อนข้ามสู่ลาวใต้ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (Southern Laos) จากนั้นออกเดินทางสู่ เมืองปากเซ ข้ามสะพานมิตรภาพ ลาว-ญี่ปุ่น ข้ามแม่น้ำโขงสู่ เมืองปากเซ (Pakse) เมืองหลวงของแขวงจำปาสัก ซึ่งมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ปากเซมีความหลากหลายของเชื้อชาติ ประเพณีและวัฒนธรรม นอกจากชาวลาวแล้วยังมีชาวจีน และเวียดนามเข้ามาอาศัย และตั้งรกรากทำมาหากินจำนวนมาก บรรยากาศโดยทั่วไปในเมืองปากเซเงียบสงบเป็นธรรมชาติ
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ห้องอาหาร
บ่าย นำท่านไปชม ปราสาทหินวัดพู หรือ วัดพู (Vat Phou Temple Complex) (ระยะทาง 133 กม./ 2.40 ชม.) เป็นปราสาทขอม ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองปากเซมาทางทิศใต้ประมาณ 42 กิโลเมตร ที่นี่เป็นหนึ่งโบราณสถานที่สำคัญในลาวใต้ ซึ่งเป็นมรดกโลกแห่งที่สองของประเทศลาว ตัวปราสาทตั้งอยู่บนเนินเขาภู หรือเรียกกันว่าภูควาย ลักษณะของปราสาทเป็นเทวสถานขอม คล้ายกับเขาพระวิหาร สร้างในราวพุทธศตวรรษที่ 12 ในสมัยของพระเจ้ามเหนทรวรมัน ถือว่าเป็นปราสาทหินที่มีอายุเก่าแก่ที่สุด ตัวปราสาทมี 2 จุดหลักๆ ด้านซ้ายและขวาอยู่ตรงข้ามกัน และมีทางขึ้นไปชมภาพสลักด้านบน..สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางสู่ เกาะดอนโขง (Don Khong Island) (ระยะทาง 173 กม./ 2.55 ชม.) เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดและตั้งอยู่เหนือสุดของหมู่เกาะสี่พันดอน เป็นอดีตที่ตั้งของแขวงสีทันดรในสมัยฝรั่งเศสปกครอง เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดกลางมหานทีสีทันดร ส่วนกว้างของเกาะดอนโขงกว้าง 7 กิโลเมตร ยาว 16 กิโลเมตร นอกจากนี้ยังเป็นเมืองหลวงของอำเภอโขง และเป็นจุดที่สำคัญสำหรับการเดินทางไปยังส่วนที่เหลือของเกาะต่างๆ เกาะแห่งนี้มียอดเขา 99 แห่ง ซึ่งเป็นมรดกตกทอดของวัด (ทั้งหมด 15 แห่ง) และอาคารยุคอาณานิคมของฝรั่งเศส มีความยาว 24 กิโลเมตร และกว้าง 8 กิโลเมตร และมี 19 หมู่บ้าน ซึ่งพวกเขาส่วนใหญ่ทำมาหากินจากการตกปลา ตลาดหลักในบ้านกลางดอนเป็นสถานที่ ที่เหมาะกับการไปเดินในตอนเช้าเพื่อดูปลาที่จับได้ จากแม่น้ำโขงที่มีอยู่หลากหลายสายพันธุ์
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหาร
นำท่านเข้าสู่ที่พัก Pon Arena Hotel หรือเทียบเท่า (N1)
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ ท่าเรือนากระสัง จากนั้น นั่งเรือล่องลำน้ำโขง ลัดเลาะเกาะแก่งกลาง มหานทีสีทันดร หรือ สี่พันดอน (Si Phan Don) มหานครของพญานาคตอนใต้ สู่ เกาะดอนเดด-เกาะดอนคอน เป็นเกาะเล็กๆ หนึ่งในมหานทีสี่พันดอน ทั้งสองเกาะนี้ครั้งเมื่อสมัยฝรั่งเศสยึดครองอินโดจีน จำเป็นต้องส่งสินค้าและสิ่งของต่างๆ ขึ้นไปตรงตอนกลางประเทศ แต่ต้องติดขัดกับเกาะแก่งขนาดใหญ่ ทำให้เรือสินค้าไม่สามารถแล่นผ่านไปได้ จึงได้สร้างท่าเรือและทางรถไฟบนดอนคอน ไว้สำหรับเป็นท่าเรือเพื่อขนถ่ายสินค้าลงเรือใหม่ ซึ่งหัวจักรรถไอน้ำและรางรถไฟ ณ ปัจจุบัน ยังมีซากหักปรักพังให้เห็นก่อนถึงน้ำตกหลี่ผี บรรยากาศรอบๆ เกาะเงียบสงบ วิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านริมฝั่งน้ำมีความเรียบง่าย ตลอดจนความร่มรื่นของต้นมะพร้าวมากมายที่ขึ้นทั่วบริเวณทั่วเกาะ ก็ทำให้เกาะแห่งนี้มีความที่น่าอยู่ และได้รับความนิยมจากชาวต่างชาติ ยุโรป เอเชีย ที่มาท่องเที่ยวและพักอาศัยหลายๆ วัน ชมวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวลาวริมสองฝั่งโขง จากนั้นนำท่านนั่งรถแบตเตอรี่ (ราคารวมรถแบตเตอรี่) ชม น้ำตกหลี่ผี หรือ ตาดสมพะมิตร (Li Phi Waterfall) ชมสายน้ำหลายพันสายพุ่งกระโจนลงตามซอกหินกว้างกว่า 3 กิโลเมตร จนจรดชายแดนประเทศกัมพูชา เกิดเป็นน้ำตกที่ไหลผ่านเกาะแก่งกลางแม่น้ำโขง หลากหลายเส้นทางจนนับไม่ถ้วนไหล จนเป็นที่มาของชื่อ “มหานทีสี่พันดอน” แก่งหินเหล่านี้ได้เกิดการยุบตัวลง เป็นหลุมและเกิดผาสูง ประมาณ 15 ถึง 20 เมตร ทำให้สายน้ำที่ไหลตกลงมาเป็นกระแสน้ำที่เชี่ยวกราก เปรียบเสมือนดั่งกังหันแห่งสายน้ำ ที่มีแรงกระทบของสายน้ำอย่างแรง คำว่า หลี่ผี แปลว่า เครื่องมือจับปลาของชาวลาว และ ผี แปลว่า ศพของคนที่ได้ตกน้ำตาย จากแม่น้ำโขงจะมาตกและติดกับหลี่ของชาว บ้านที่หาปลาแถวๆ นี้ รวมกันเป็น หลี่ผี นับตั้งแต่นั้นมาน้ำตกแห่งนี้จึงมีนามว่า น้ำตกหลี่ผี
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ห้องหาหาร
บ่าย กลับสู่ท่าเรือนากระสัง เดินทางสู่ น้ำตกคอนพะเพ็ง (Khone Phapheng Falls) น้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียอาคเนย์ หรือ ไนแองการ่าแห่งเอเชีย ซึ่งเกิดจากการลดระดับของชั้นหิน และกระแสน้ำที่เชี่ยวกรากกลางน้ำโขง ที่มีเพียงจุดเดียวของแม่น้ำสายนี้ที่เรือชนิดใดก็ไม่สามารถผ่านไปได้ เจ้ามหาชีวิตสุริยวงสาเคยตรัสไว้ว่า แก่งหลี่ผี คอนพะเพ็ง เปรียบเสมือนกำแพงธรรมชาติที่ต่อต้านข้าศึก ไม่ให้ฝ่ามาได้ จากนั้นอิสระให้ท่านเก็บภาพน้ำตกตามอัธยาศัย...
เดินทางสู่ เมืองปากซอง (Paksong) (ระยะทาง 185 กม./ 3.05 ชม.) เมืองที่ตั้งอยู่บนที่ราบสูงโบลาเวน ซึ่งมีความสูงจากระดับน้ำทะเล 1,000-1,350 เมตร ทำให้มีอากาศเย็นสบาย อุณหภูมิเฉลี่ยไม่เกิน 25 องศา ตลอดทั้งปี
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหาร
นำท่านเข้าสู่ที่พัก Sabaidee Valley Resort หรือเทียบเท่า (N2)
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านสู่ น้ำตกตาดฟาน (Tad Fane Waterfall) ให้ท่านได้ร่วมสนุกกับ กิจกรรม Zip line โหนลวดสลิง ผ่านน้ำตกตาดฟาน โดยมีกันทั้งหมด 4 เส้น (ค่ากิจกรรมไม่รวมในรายการ)
เส้นที่ 1 ยาว 470 เมตร ความสูง ประมาณ 220 เมตร
เส้นที่ 2 ยาว 150 เมตร ความสูง ประมาณ 60 เมตร
เส้นที่ 3 ยาว 200 เมตร ความสูง ประมาณ 70 เมตร
หลังจาก Zip line ผ่านน้ำตกแล้ว เดินทางขึ้นบันไดอีกประมาณ 177 ขั้น เพื่อพิชิต Zip line เส้นที่ 4 ที่มีความยาว ประมาณ 200 เมตร จากนั้นชม ที่ราบสูงโบลาเวน (Bolaven Plateau) สวรรค์ของคนรักกาแฟ เมืองที่มีอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี อยู่สูงจากระดับ น้ำทะเลประมาณ 1,000-1,350 เมตร มีชื่อเสียงโด่งดังด้วยทัศนียภาพที่สวยงามของธรรมชาติและหมู่บ้านชนเผ่า อากาศดีและเย็นสบายเหมาะสำหรับการมาพักผ่อน บริเวณนี้มีการปลูกกาแฟกันมาตั้งแต่ ค.ศ. 1920 สมัยที่เป็นอาณานิคมของฝรั่งเศสแม้ทางตอนเหนือของลาว ก็มีการปลูกเหมือนกันแต่น้อย ไร่กาแฟถึง 95% ของลาวอยู่ในเขตที่ราบสูงแห่งนี้ เนื่องจากเป็นพื้นที่สูงจึงมีภูมิอากาศที่เหมาะสมสำหรับการปลูกชา และกาแฟคุณภาพเยี่ยม ที่นี่เป็นที่ตั้งของโรงงานกาแฟชื่อดังของลาว ดาวคอฟฟี่ (Dao Coffee) ซึ่งกาแฟปากซองที่ปลูกบนที่ราบสูงนี้ เป็นกาแฟชั้นดีที่นักดื่มกาแฟทั่วโลกยอมรับ เป็นพืชส่งออกที่มีมูลค่าสูงของประเทศลาว อิสระให้ท่านได้ลองลิ้มชิมรสกาแฟ และเลือกซื้อเป็นของฝากที่ ปากซองไฮแลนด์ (ไร่กาแฟเบียร์ช้าง) (Paksong Highland)
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ห้องอาหาร
บ่าย นำท่านเดินทางกลับสู่ จังหวัดอุบลราชธานี (ระยะทาง 179 กม./ 3.30 ชม.) ระหว่างทางเพลิดเพลินกับวิวทิวทัศน์ตลอดสองข้างทาง จนถึงด่านพรมแดนช่องเม็ก หลังผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองแล้ว เดินทางต่อสู่สนามบินอุบลราชธานี
17.40 น. เดินทางโดย สายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG029 (บริการอาหารและพักผ่อนบนเครื่องบิน)
ออกเดินทางกลับสู่ กรุงเทพฯ ประเทศไทย
18.55 น. เดินทางถึง กรุงเทพฯ สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ...
35/32 จอมพล จตุจักร กรุงเทพ 10900