06.00 น. คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ ชั้น 4 เคาน์เตอร์สายการบิน โอมานแอร์ (WY) โดยมีเจ้าหน้าที่บริษัทฯคอยต้อนรับและอำนวยความสะดวกด้านเอกสารการเดินทาง
09.10 น. ออกเดินทางสู่ สนามบินมัสกัต ประเทศโอมาน โดยสายการบิน โอมานแอร์เที่ยวบินที่ WY818 (บริการอาหารและ เครื่องดื่มบนเครื่อง) (ใช้เวลาบินประมาณ 5.50 ชั่วโมง)
12.00 น. เดินทางถึง สนามบินมัสกัต ประเทศโอมาน (เวลาท้องถิ่น) จากนั้นรอต่อเครื่องเพื่อเดินทางสู่ เมืองปารีส ประเทศ ฝรั่งเศส (รอแวะเปลี่ยนเครื่องประมาณ 2.10 ชั่วโมง)
14.10 น. ออกเดินทางสู่สนามบินปารีส ชาร์ล เดอ โกล ประเทศฝรั่งเศส โดยสายการบิน โอมานแอร์เที่ยวบินที่ WY131 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง) (ใช้เวลาบินประมาณ 7.35 ชั่วโมง)
19.45 น. ถึง สนามบินปารีส ชาร์ล เดอ โกล (เวลาประเทศฝรั่งเศสช้ากว่าประเทศไทย 6 ชั่วโมง กรุณาปรับเวลาให้ตรงตาม เวลาท้องถิ่น เพื่อความสะดวกในการนัดหมาย) ผ่านขั้นตอนตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรเรียบร้อยแล้ว นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก
ที่พัก โรงแรมมาตรฐาน 3-4 ดาว หรือเทียบเท่า
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางเข้าสู่ มหานครปารีส (Paris) เมืองหลวงของฝรั่งเศส สถานที่ในฝันแห่งหนึ่งของนักท่องเที่ยวทั่วโลก ตั้งอยู่บริเวณแม่น้ำแซน บริเวณตอนเหนือของประเทศ หนึ่งในศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรมที่ล้ำสมัยแห่ง หนึ่งของโลก เมืองแห่งศิลปะ แฟชั่น การศึกษา อบอวลไปด้วยความโรแมนติก เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ และความ สวยงามของมหานครแห่งนี้ เดินทางสู่ จัตุรัสทรอคาเดโร บริเวณเนินเขา ฝั่งตรงข้ามแม่น้ำแซน มีลานกว้างขนาดใหญ่สามารถมองเห็นได้ทั้งหอไอ เฟล สวนสาธารณะชองเดอมาร์ส เป็นจุดที่ถ่ายรูป หอไอเฟล ได้ดีที่สุดอีกแห่งหนึ่งในปารีส (กรณีจัตุรัสทรอคาเดโร มี การจัดงานหรือปิดในวันที่เดินทางไป จะต้องเปลี่ยนจุดถ่ายรูปหอไอเฟลเป็นมุมอื่นๆแทน)
ชมลานประวัติศาสตร์ จัตุรัสคองคอร์ด (Place de la Concord) มีความหมายว่า จัตุรัสแห่งความปรองดองหรือ ความสมานฉันท์อีกหนึ่งสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของประเทศฝรั่งเศส ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของเสาโอเบลิสก์ (L’Obélisque) ประติมากรรมอันล้ำค่าสัญลักษณ์แห่งมิตรภาพของประเทศอียิปต์และประเทศฝรั่งเศส ซึ่งถูกส่งให้ เป็นของขวัญแก่พระเจ้าชาร์ลที่ 10 ในปีค.ศ. 1829 และ ประติมากรรมน้ำพุ Fontaine de Jacques Hirtoff พระเจ้า หลุยส์-ฟิลิป โปรดให้สถาปนิก Jacques Hittoff สร้างน้ำพุ 2 แห่ง บริเวณกลางลานจัตุรัสคองคอร์ด ผ่านชมสวนตุย เลอรีTuileries Garden อดีตเป็นสวนของพระราชวังหลวงอันเก่าแก่ใจกลางกรุงปารีส อยู่ระหว่าง จัตุรัสคองคอร์ด และพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ ไม่พลาด ถ่ายภาพพีระมิดแก้ว ด้านหน้า พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ (Louvre Museum) พิพิธภัณฑ์ชื่อ ดังที่ตั้งอยู่กลางเมืองใหญ่แห่งนี้ โดดเด่นสะดุดตาด้วยทางเข้าที่เป็นทรงโดมพีระมิดแก้วที่เป็นสัญลักษณ์ของพิพิธภัณฑ์ เป็นพิพิทธภัณฑ์ที่เก็บรักษาผลงานศิลปะเอาไว้มากกว่า 380,000 ชิ้น ให้ท่านได้ถ่ายรูปกับสถาปัตยกรรมอันโดดเด่น ตามอัธยาศัย
อิสระช้อปปิ้ง ณ Duty Free น้ำหอม เครื่องสำอาง และ Shopping ห้างลาซามาริแตง (La Samaritaine) ห้างสรรพสินค้าคอนเซ็ปต์สโตร์ที่กลับมามีชีวิตอีกครั้งนับตั้งแต่เปิดทำการเมื่อปี 1870 อาคารเก่าแก่ที่สร้างมาตั้งแต่ ก่อนศตวรรษที่ 20 ตั้งอยู่บริเวณเลียบแม่น้ำแซน หนึ่งในอนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์ของฝรั่งเศส สร้างด้วย สถาปัตยกรรมผสมระหว่างอาร์ตนูโว (Art Nouveau) และอาร์ตเดโค (Art Déco) มีพื้นที่กว่า 70,000 ตารางเมตร เต็มไปด้วยร้านค้าระดับพรีเมียมกว่า 600 แบรนด์ตลอดทั้ง 7 ชั้น ร้านอาหารอีกกว่า 12 ร้าน ผสานทั้งความเก่าแก่ โม เดิร์น แฟชั่น อาหาร และที่สำคัญกับงานศิลปะ อิสระให้ท่านช้อปปิ้งสินค้าแบรนเนมตามอัธยาศัย
นำท่านผ่านชม มหาวิหารนอร์ทเทอร์ดาม อัญมณีแห่งสถาปัตยกรรมโกธิคยุคกลาง อายุกว่า 850 ปี สถานที่ท่องเที่ยว สำคัญในกรุงปารีสประเทศฝรั่งเศส ด้วยสถาปัตยกรรมที่งดงาม แต่ละปีมีนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกไปเยี่ยมชม มหาวิหาร 13 ล้านคน เฉลี่ยวันละ 35,000 คน ตัวอาคารมีความสูงวัดถึงยอดอยู่ที่ 69 เมตร กว้าง 69 เมตร ยาว 128 เมตร ภายในและภายนอกอาคารประดับประดาด้วยประติมากรรม และหน้าต่างกระจกสี มหาวิหารนอร์ทเทอร์ดาม ตั้งอยู่บนเกาะ อีล เดอ ลา ซิเต้ กลางแม่น้ำแซน เริ่มสร้างในปี ค.ศ. 1163 ในยุคของพระเจ้าหลุยส์ที่ 7 และสร้างเสร็จ ในปี 1345 มหาวิหารแห่งนี้เคยได้รับความเสียหายและถูกปล่อยปละละเลยในช่วงการปฏิวัติฝรั่งเศส และนำไปสู่การ บูรณะครั้งใหญ่ระหว่างปี 2387-2407 มหาวิหารนอเทรอดาม ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกใน ปี 1991
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่านเที่ยวชมกรุงปารีส ถ่ายภาพเป็นที่ระลึกกับ ประตูชัยนโปเลียน (Arc de Triomphe) หรือ ประตูชัย ฝรั่งเศส ตั้งอยู่กลางจัตุรัสชาร์ลเดอโกล ทางทิศตะวันตกของ ถนนฌ็องเซลิเซ่ ประตูชัยนี้เป็นจุดเริ่มต้นและสิ้นสุดของถนน ถึง 12 เส้น สร้างขึ้นเพื่ออุทิศแด่ผู้กล้า ผู้สละชีพในสงครามน โปเลียน สงครามปฏิวัติฝรั่งเศส และสงครามโลกครั้งที่ 1 ปัจจุบันยังเป็นสุสานของทหารนิรนามอีกด้วย ผ่านชมถนน สายโรแมนติก ถนนช็องเซลีเซ (Champs Elysees) ซึ่ง ได้รับการขนานนามว่าเป็นถนนที่สวยที่สุดในโลกที่เต็มไป ด้วยร้านค้าแบรนด์เนมจากดีไซเนอร์ชื่อก้องโลกและยังคง รักษารูปแบบสถาปัตยกรรมของตึกในสมัยโบราณ จากนั้นอิสระให้ท่านช้อปปิ้ง ห้างแกลเลอรี่ ลาฟาแยตต์(Galeries Lafayette) ห้างหรูที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่ง ของปารีส ภายในอาคารเต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมที่สวยงาม อีกทั้งยังยิ่งใหญ่อลังการ สมกับเป็นห้างสรรพสินค้าที่มี อายุมากกว่า 100 ปี เต็มไปด้วยสินค้าแฟชั่นแบรนด์เนม เครื่องสำอางมากมาย อาทิ Chanel , Christian Dior, Prada, Balenciaga ฯลฯ รวมไปถึงมีภัตตาคารซึ่งให้บริการอาหารฝรั่งเศสซึ่งเป็นรสชาติเฉพาะของเมืองปารีสอีก มากมาย
เพื่อให้ท่านได้เพลิดเพลินในการเดินเล่นอย่างเต็มอิ่มจุใจ อิสระอาหารเย็นตามอัธยาศัย
ที่พัก โรงแรมมาตรฐาน 3-4 ดาว หรือเทียบเท่า
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ เมืองดิฌง (Dijon) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4.30 ชั่วโมง) ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือ เมืองดิฌงเป็นเมือง หลวงของแคว้นบูร์กอญ มีสถานที่หน่วยงานราชการสำคัญต่างๆตั้งอยู่หลายแห่ง สถาปัตยกรรมของตึกบ้านเรือนมี ลักษณะโดดเด่นได้รับอิทธิพลมาจากเยอรมันใน บางส่วน อีกทั้งยังมีพิพิธภัณฑ์ขนาดใหญ่อยู่กลาง เมือง มีสวนสาธารณะอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟ และมี โบสถ์วิหารขนาดใหญ่อยู่ใจกลางเมืองซึ่งด้านข้าง ซ้ายของรั้วมีสัญลักษณ์นกฮูกแกะสลักติดอยู่ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มีความเชื่อว่าการใช้มือซ้าย แตะลงไปที่นกฮูกพร้อมกับอธิษฐานขอพรในสิ่งที่ ตนปรารถนาย่อมจะสมหวังในที่สุด ของฝากที่มี ชื่อเสียงอย่างมากในแคว้นบูร์กอญ นั่นคือไวน์ขาว และมัสตาด เป็นที่นิยมอย่างมากสำหรับผู้มาเยี่ยมเยือน
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองเจนีวา (Geneva) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3.45 ชั่วโมง) เป็นเมืองใหญ่อันดับสอง ของประเทศสวิตเซอร์แลนด์(รองจากซูริค) โดยถือว่าเป็นเมืองที่มีแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นที่รู้จักของคนทั่วโลกมากมาย เช่น ทะเลสาบเจนีวา น้ำพุเจ็ทโด้ เป็นต้น เมืองที่มีประชากรมากที่สุดในภาครอม็องดีอัน เป็นภูมิภาคที่ใช้ภาษาฝรั่งเศส เป็นหลักในสวิตเซอร์แลนด์ นครเจนีวาตั้งอยู่บริเวณต้นแม่น้ำโรนซึ่งไหลออกจากทะเลสาบเจนีวา ณ ปัจจุบัน เจนีวามี สถานะเป็นเมืองหลวงของสาธารณรัฐแห่งรัฐเจนีวา ในอดีตเมืองเจนีวาเคยอยู่ภายใต้การปกครองของโรมัน และ ฝรั่งเศส แต่เมื่อได้รับอิสรภาพจึงรีบหาพันธมิตรเพราะไม่อยากโดนรุกรานอีก โดยการเข้าร่วมเป็นสมาชิกพันธรัฐสวิส จากนั้นเจนีวาก็รู้จักอย่างกว้างขวางในนาม "เมืองแห่งองค์กรนานาชาติ"
เพื่อให้ท่านได้เพลิดเพลินในการเดินเล่นอย่างเต็มอิ่มจุใจ อิสระอาหารเย็นตามอัธยาศัย
ที่พัก โรงแรมมาตรฐาน 3-4 ดาว หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
นำท่านชม ทะเลสาบเจนีวา (Lake Geneva) ทะเลสาบคล้ายรูปพระจันทร์เสี้ยว และเป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุด ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ถ่ายรูปกับ น้ำพุเจทโด (Jet d'Eau หรือ แฌโด) ที่ฉีดสายน้ำพุ่งสูงขึ้นไปในอากาศถึง 140 เมตร (เปิดเฉพาะวันอากาศดี) และถ่ายรูปกับ นาฬิกาดอกไม้ สัญลักษณ์ที่สำคัญของเมืองเจนีวา
จากนั้นเดินทางสู่ เมืองโลซานน์ (Lausanne) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 50 นาที) เป็นเมืองหลวงของรัฐโว และตั้งอยู่ ห่างจากเมืองเจนีวาไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ 60 กิโลเมตร ในอดีตเมืองโลซานน์เป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรโรมัน เพราะพื้นที่ของเมืองอยู่ติดกับทะเลสาบเจนีวา ทำให้เชื่อมต่อกับอาณาจักรโรมันเมืองอื่นๆได้สะดวก ในอดีตเขตชุมชน ตั้งอยู่ริมทะเลสาบ ด้วยชัยภูมิของเมืองดี จึงเป็นที่หมายปองของมหาอำนาจ ชาวบ้านจึงย้ายไปตั้งชุมชนบนเนินเขา เหนือทะเลสาบ ทำให้สถานที่ท่องเที่ยวในปัจจุบันแบ่งออกเป็น 2 ส่วนได้แก่ เขตเมืองเก่า (เนินเขาเหนือทะเลสาบ) และเขตริมทะเลสาบ
นำท่านชม มหาวิหารแห่งโลซานน์ (Cathédrale de Lausanne) (บริเวณภายนอก) หรือชื่อเต็มคือ อาสนวิหารน็อทร์-ดามแห่งโลซาน เป็นโบสถ์คริสต์ นิกายโปรเตสแตนต์ อาสนวิหารแห่งนี้เริ่มก่อตั้งขึ้นใน ศตวรรษที่ 12 ในปี ค.ศ. 1170 และแล้วเสร็จในปี 1235 ด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์โกธิค ต่อมาอาสนวิหาร แห่งนี้ถูกประกาศอุทิศให้แก่พระแม่มารีย์โดยคำ ประกาศของสมเด็จพระสันตะปาปาเกรกอรีที่ 10 ในปี 1275 และยังมีอีกชื่อหนึ่งว่า มหาวิหารนอร์ทเทอร์ ดาม (Notre-Dame)
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่านเดินทางสู่ เมืองเวอแว (Vevey) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที) เมืองเล็กๆ น่ารักในรัฐโวด์ของประเทศ สวิตเซอร์แลนด์ บนชายฝั่งทางตอนเหนือของทะเลสาบเจนีวา ที่มีทิวทัศน์เบื้องหลังเป็นเทือกเขาแอลป์ที่งดงาม เวอแว เป็นเมืองในยุคกลางและยังเป็นแหล่งผลิตไวน์ที่สำคัญแห่งหนึ่งของประเทศสวตเซอร์แลนด์ อีกทั้งเป็นที่ตั้งของ สำนักงานใหญ่ของบริษัทเนสต์เล่ ยักษ์ใหญ่แห่งวงการอาหาร ด้วยภูมิประเทศที่สวยงามรายล้อมด้วยภูเขา และติด ทะเลสาบเจนีวา จึงได้รับการขนานนามว่า "ไข่มุกแห่งริเวียร่าสวิส" (Pearls of the Swiss Riviera)
เมืองเวอแว เป็นเมืองที่ศิลปินชื่อดังชาวอังกฤษอย่าง ชาร์ลีแชปลิน ได้มาใช้ช่วงเวลา 25 ปีสุดท้ายในชีวิต ที่เมืองแห่ง นี้ ภายหลังจากที่เค้าเสียชีวิตจึงได้มีการสร้างอนุสาวรีย์เพื่ออุทิศให้กับเขา หันหน้าไปทางทะเลสาบเจนีวา และได้ เปลี่ยนบ้านที่เคยอยู่ให้เป็นพิพิธภัณฑ์ สำหรับผู้ที่สนใจเกี่ยวกับชีวิตของศิลปิน ท่านนี้อีกด้วย และไม่ไกลจาก อนุสาวรีย์ ชาร์ลี แชปลิน จะเห็น The Fork ส้อม ขนาดใหญ่ ทำจากสแตนเลสสูง 8 เมตร กว้าง 1.3 เมตร ออกแบบโดย JeanPierre Zaugg ชาว Neuchatel ตั้ง ตระหง่านตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 1995 เพื่อเป็นการรำลึกวันครอบรอบ10 ปี ของ Alimentarium (พิพิธภัณฑ์ อาหาร) ซึ่งได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของเมือง Vevey
นำท่านเดินทางไปยัง เมืองเบิร์น (Bern) เมืองหลวงของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง) เป็นอีกหนึ่งเมืองที่ไม่ควรพลาดเมื่อเดินทางมายังสวิตเซอร์แลนด์ เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามด้วยบ้านเรือน ในบรรยากาศสบายๆ ตามสไตล์เมืองเก่า ทั่วไป ให้ท่านชม บ่อหมีสีน้ำตาล Bear Park สัตว์ที่เป็นสัญลักษณ์ของกรุงเบิร์น จากนั้นเที่ยวชม ย่านเมืองเก่า (Old City of Berne) ซึ่งได้รับการบรรจุไว้ใน รายชื่อมรดกโลกในปี ค.ศ. 1983 และ ก่อตั้งขึ้นในสมัยคริสต์ศตวรรษ ที่ 12 ตั้งอยู่บนภูเขาล้อมรอบด้วยแม่น้ำอาเร (Aare River) มาร์คกาสเซ ย่านเมืองเก่า ที่ปัจจุบันเต็มไปด้วยร้านดอกไม้ และร้าน เสื้อผ้าบูติค เป็นย่านที่ปลอดรถยนต์จึงเหมาะกับการเดินเที่ยวชมอาคารเก่าอายุ 200 - 300 ปี โบสถ์แห่งกรุงเบิร์น (The Cathedral of Bern) มหาวิหารแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในสมัยยุคโกธิค ตั้งแต่ปี ค.ศ.1964 หอคอยมีความสูงราวๆ 100 เมตร สร้างแล้วเสร็จในปี ค.ศ.1893 ถือเป็นมหาวิหารที่สูงที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์ และถือเป็นสมบัติทางวัฒนธรรมของประเทศด้วย จากนั้นชม หอนาฬิกาดาราศาสตร์ ไซ้ท์กล็อคเค่น (Zytglogge Clock Tower) หอนาฬิกายุคกลางที่มีชื่อเสียงที่สุดของย่านเมืองเก่าเบิร์น ถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 13 อายุ 800 ปี จะมีโชว์ให้ดูทุกๆ ชั่วโมงที่นาฬิกาตีบอกเวลา ปัจจุบันเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของกรุงเบิร์น
เพื่อให้ท่านได้เพลิดเพลินในการเดินเล่นอย่างเต็มอิ่มจุใจ อิสระอาหารเย็นตามอัธยาศัย
ที่พัก โรงแรมมาตรฐาน 3-4 ดาว หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
นำท่านเดินทางสู่ เมืองกอลมาร์ (Colmar) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 ชั่วโมง) เป็นเมืองเล็กๆน่ารัก ตั้งอยู่ใน แคว้นอัลซาส (Alsace) เป็น 1 ใน 8 แคว้นผลิตไวน์ สำคัญของฝรั่งเศสถูกจัดให้เป็นเมืองที่มีความโรแมนติคเมืองหนึ่ง ของประเทศฝรั่งเศส อันเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางสายไวน์แหล่งปลูกองุ่นพันธุ์ดี เพื่อผลิตไวน์ชั้นเลิศบริเวณเชิงเขาของ เทือกเขาโวชจ์ ซึ่งมีไร่องุ่นจำนวนมากเคียงคู่ไปกับอุตสาหกรรมการผลิตไวน์ชั้นเยี่ยม นำท่านเดินเที่ยวชม สถาปัตยกรรมของอาคารบ้านเรือนเก่าแก่ ช่วยทำให้เมืองดูโรแมนติกยิ่งขึ้นมรดกทางสถาปัตยกรรมพบเห็นได้จาก โบสถ์แบบโกธิคและโรมันสไตล์และอาคารเก่าหลายหลังสร้างในคริสต์ศตวรรษที่ 15 บ้านเรือนเรียงรายสองฝั่งคลองดู งดงามน่ารักจนได้รับการขนานนามว่า “ลิตเติ้ลเวนิส” อิสระให้ท่านเดินเล่นชมเมือง
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองสตราสบูร์ก (Strasbourg) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.15 ชั่วโมง) เมืองหลวงแห่ง แคว้นอัลซาส(Alsace) ของประเทศฝรั่งเศส และยังได้รับการยกย่องเป็นเมืองมรดกโลกด้านมนุษยชาติจากองค์การ ยูเนสโกเมืองซึ่งผสมผสาน 2 วัฒนธรรมคือ ฝรั่งเศสและเยอรมัน เนื่องจากในอดีตถูกผลัดเปลี่ยนอยู่ภายใต้การปกครอง ของ 2 ประเทศนี้สลับกันไปมา ทั้งยังเป็นสถานที่ตั้งขององค์กรสำคัญของยุโรป อาทิ สภายุโรป องค์กรสิทธิมนุษยชน และศาลสิทธิมนุษยชนแห่งยุโรป ที่นี่ยังเป็นเมืองมหาวิทยาลัยดังชั้นนำที่เกอร์เธ (Goethe) นักเขียนชาวเยอรมันเคยศึกษาอยู่
เดินทางสู่ เมืองลูเซิร์น (Lucerne) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3.30 ชั่วโมง) ลูเซิร์นเป็นเมืองเล็กๆ เกือบใจกลาง ประเทศ สวิตเซอร์แลนด์ ที่ชวนหลงใหล ตั้งอยู่ริมฝั่ง “ทะเลสาบลูเซิร์น” (Lake Lucerne) มองเห็นแนวเทือกเขา แอลป์เรียงสลับเป็นทิวสวยงามทุกฤดูกาล และนอกจากทิวเขาแล้วลูเซิร์นยังมีป่าไม้ค่อนข้างหนาแน่น และทุ่งหญ้า กว้างใหญ่ตามแนวเชิงเขา ความดีงามของลูเซิร์น คือเป็นเมืองที่ยังคงอนุรักษ์ความเก่าแก่ของพื้นที่ไว้ได้อย่างดี แบ่งเขต ชัดเจนระหว่างเมืองเก่าและเมืองใหม่
อิสระอาหารเย็นตามอัธยาศัย
ที่พัก โรงแรมมาตรฐาน 3-4 ดาว หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
นำท่านเดินทางสู่ เมืองแองเกลเบิร์ก (Engelberg) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) เพื่อ นั่งกระเช้าขึ้นสู่ยอดเขา ทิตลิส คือยอดเขาที่มีธารน้ำแข็งที่สูงที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์ ได้รับความนิยมในกลุ่มนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก โดย ยอดเขามีความสูงถึง 3,238 เมตร มีหิมะปกคลุมตลอดทั้งปี มีจุดเด่นคือ Titlis Rotair กระเช้าไฟฟ้าหมุนได้ 360 องศา แห่งแรกของโลก ให้นักท่องเที่ยวชมวิวและถ่ายรูปได้เพลิดเพลิน บนยอดเขามีกิจกรรม Ice Flyer กระเช้านั่ง ห้อยขา ลานสกีและ Titlis Cliff สะพานแขวนที่ตั้งอยู่สูงที่สุดในยุโรป
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (บนเขาทิตลิส)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองซุก (Zug) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) เมืองเล็กๆ ตั้งอยู่ริมทะเลสาบที่มี ประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 800 ปี ปัจจุบันเป็นเมืองที่รวยที่สุดของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และยังเป็นเมืองที่เรียก เก็บค่าภาษีในอัตราต่ำที่สุดในโลกอีกด้วย ท่านสามารถเดินเที่ยวในเขตเมืองเก่าของซุกได้อย่างเพลิดเพลิน บรรยากาศ ของอาคารบ้านเรือนที่ยังคงความเก่าแก่แต่สวยงาม พื้นถนนที่ปูด้วยหินจากยุคกลาง จัตุรัสที่มีน้ำพุโบราณประดับด้วย รูปปั้นอยู่หลายจุด ไปจนถึงทะเลสาบซุกที่สวยงามและถูกโอบล้อมด้วยเทือกเขาที่อยู่ไกลออกไป ล้วนแล้วแต่เป็นมนต์ เสน่ห์ของเมืองเก่าแก่เล็กๆ แห่งนี้
เดินทางกลับ เมืองลูเซิร์น (Lucerne) (ใช้เวลาเดินทาง ประมาณ 30 นาที) นำท่านถ่ายภาพกับ อนุสาวรีย์สิงโต (Lion Monument) สัญลักษณ์สำคัญของลูเซิร์นถูก สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึก และเป็นเกียรติแก่เหล่าทหาร หาญชาวสวิสซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวลูเซิร์นมากกว่า 700 คนที่ออกรบและเสียชีวิตในฝรั่งเศสเมื่อครั้งเกิดสงคราม ปฏิวัติยุคพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 ซึ่งเป็นการเจาะเนื้อหิน และแกะสลักขึ้นรูปเป็นประติมากรรมสิงโตตัวใหญ่ สวยงามมากแม้จะมีใบหน้าโศกเศร้าดังที่ว่าก็ตาม และอีกจุดหนึ่งที่น่าชมมากในย่านนี้ก็คือ สะพานไม้ชาเปล (Chapel bridge) สะพานที่ดูไม่เหมือนสะพานและมีอายุเก่าแก่มากกว่า 600 ปี ที่ว่าไม่เหมือนสะพานก็เพราะแวบ แรกอาจดูคล้ายอาคารกลางน้ำ แต่จริงๆ แล้วสร้างขึ้นเพื่อใช้ข้ามไปมาระหว่างสองฝั่งแม่นํ้ารอยซ์
เพื่อให้ท่านได้เพลิดเพลินในการเดินเล่นอย่างเต็มอิ่มจุใจ อิสระอาหารเย็นตามอัธยาศัย
ที่พัก โรงแรมมาตรฐาน 3-4 ดาว หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
นำท่านเดินทางสู่ เมืองโลคาร์โน (Locarno) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 ชั่วโมง) เป็นเมืองที่พักตากอากาศสวย ทรงเสน่ห์เมืองนึงของคนสวิตเซอร์แลนด์ อยู่ทางภาคใต้ของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ซึ่งเป็นเมืองในรัฐ Ticino (ทิชิ โน) มีภูมิศาสตร์ที่สวยงาม ล้อมไปด้วยภูเขาและทะเลสาบ Locarno หรืออีกชื่อหนึ่งคือ ทะเลสาบ Maggiore (ทะเลสาบมาโจเร่) ที่กว้างใหญ่และมีชื่อเสียง มีกิจกรรมให้ทำตลอดปี เมือง Locarno นี้ได้รับฉายาว่าเป็นเมืองแห่ง เทศกาลหนังริมทะเลสาบ โดยมีการฉายหนังที่โรงหนังกลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่จัตุรัส Piazza Grande อิสระให้ ท่านเดินเล่นชมเมือง
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองโคโม่ (Como) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง) เมืองที่เพียบพร้อมด้วย ทัศนียภาพอันงดงาม ทั้งเทือกเขาแอลป์สูง และทะเลสาบโคโม่ ทำให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิต ยังไม่นับผลงาน ศิลปะชั้นเลิศมากมายทั่วเมือง โบสถ์เก่าแก่ โรงละคร และพิพิธภัณฑ์อีกมากมาย เดินเที่ยวชมเมือง ชมวิวสวยๆ ริม ทะเลสาบโคโม่ ทะเลสาบมีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 3 ของอิตาลี ด้วยพื้นที่กว้างถึง 146 ตารางกิโลเมตร และด้วย ความลึกสูงสุดถึง 400 เมตร ทำให้เป็นหนึ่งเป็นทะเลสาบที่ลึกที่สุดของทวีปยุโรปเลยทีเดียว
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่านเดินทางเข้าสู่ เมืองมิลาน (Milan) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) หรือที่คนอิตาเลียนเรียกว่า “ มิลาโน่ (Milano) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง) มิลานเป็นเมืองหลักของแคว้นลอมบาร์เดีย เป็นเมืองสำคัญในภาคเหนือ ใหญ่อันดับ 2 ของประเทศอิตาลี มีประวัติศาสตร์ศิลปะและวัฒนธรรมที่หลากหลายผ่านสถานที่สำคัญมากมาย เมืองนี้ ได้ชื่อว่าเป็นเมืองผู้นำแฟชั่นระดับแนวหน้าของโลก มีชื่อเสียงในการเป็นศูนย์กลางทางธุรกิจการค้าแฟชั่นโมเดิร์นที่มี ความทันสมัย เช่นเดียวกับ ปารีส และ นิวยอร์ค อีกทั้งมิลานยังเป็นหัวใจด้านเศรษฐกิจของอิตาลีเพราะเป็นศูนย์กลาง การคมนาคมเขตอุสาหกรรมที่หนาแน่นที่สุดของประเทศและเป็นศูนย์กลางการเดินทางเข้าอิตาลี โดยเฉพาะรถไฟมา จากประเทศอื่นๆในยุโรป มีสถาปัตยกรรมที่เป็นสัญลักษณ์แห่งเมืองมิลานที่สุดก็คือ “มหาวิหารดูโอโม่” (Duomo di Milano)
อิสระอาหารเย็นตามอัธยาศัย
ที่พัก โรงแรมมาตรฐาน 3-4 ดาว หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
นำท่านชม มหาวิหารดูโอโม่ (Duomo di Milano) ตั้งอยู่ใจกลางเมืองมิลาน วิหารโอ่อ่าใหญ่โตอลังการ สถาปัตยกรรมสไตล์โกธิคสีขาวเด่นสวยงาม เป็นอันดับ 3 ของโลก เริ่มสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1386 แต่ระหว่างการก่อสร้าง ก็พบกับปัญหา และอุปสรรคมากมาย ทั้งปัญหาการเมือง และการเงิน กว่าจะเสร็จสมบูรณ์ก็ใช้เวลาไปถึง 579 ปี เปลี่ยนคนก่อสร้างไปหลายชั่วอายุคน แต่มีสถาปนิกที่คุมการก่อสร้าง ที่จะไม่กล่าวถึงไม่ได้นั่นก็คือ ลีโอนาโด นาวินชี ศิลปินชื่อก้องโลก วิหารนั้นมีการประดับประดาไปด้วยรูปปั้นกว่า 3,200 รูปที่สวยงาม และมียอดรวม 135 ยอด จน ได้รับฉายาว่า “วิหารเม่น”
บริเวณใกล้กันจะเป็น ห้างสรรพสินค้ากลางเมืองมิลาน (Galleria Vittorio Emanuele II) ที่นี่เป็น ห้างสรรพสินค้าเก่าแก่ที่สุดในอิตาลี และเรียกได้ว่า เก่าแก่ที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้ ตั้งอยู่ใจกลางเมืองมิ ลาน ศูนย์การค้าสุดหรูของผู้หลงใหลแฟชั่นและ อาหารชั้นเลิศแห่งนี้Galleria Vittorio manuele II ตั้งอยู่ใกล้ๆกับ The Duomo
นำท่านเดินทางสู่ Shopping Outlet Serravalle (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง) เอาท์เลทขนาดใหญ่ที่เน้น แบรนด์เนมในราคาสุดพิเศษจำนวนมากลดราคาสูงสุดถึง 70% แบรนด์ชั้นนำจากเกือบทั่วโลกมาให้เลือกซื้อเลือกช้อป กัน เช่น Gucci , Prada , Burberry, Stone Island , Valentino , Armani , boss , Michael Kors , Karl Lagerfeld , Benetton, Calvin Klein, Crocs , Guess, Lacoste, Diesel และอีกมากมาย
อิสระอาหารกลางวัน และอาหารเย็น ตามอัธยาศัย ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางสู่สนามบินมิลาน
21.30 น. ออกเดินทางสู่ สนามบินมัสกัต ประเทศโอมาน โดยสายการบิน โอมานแอร์เที่ยวบินที่ WY144 (บริการอาหารและ เครื่องดื่มบนเครื่อง) (ใช้เวลาบินประมาณ 6.15 ชั่วโมง)
06.45 น. เดินทางถึง สนามบินมัสกัต ประเทศโอมาน (เวลาท้องถิ่น) จากนั้นรอต่อเครื่องเพื่อเดินทางสู่ กรุงเทพฯ ประเทศไทย (รอแวะเปลี่ยนเครื่องประมาณ 2.10 ชั่วโมง )
08.55 น. ออกเดินทางสู่ สนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย โดยเที่ยวบินที่ WY815 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง) (ใช้เวลาบินประมาณ 6 ชั่วโมง)
18.00 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิโดยสวัสดิภาพ
1. กรณีผู้เดินทางขอยกเลิกการเดินทาง
2. กรณีผู้เดินทางถูกปฏิเสธวีซ่าจากสถานทูต (วีซ่าไม่ผ่าน) และ กรณีผู้เดินทางเจ็บป่วย เป็นเหตุทำให้ไม่สามารถเดินทางได้
3. หากท่านผ่านการพิจารณาวีซ่าแล้ว และขอยกเลิกการเดินทาง ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการยึดค่าใช้จ่ายทั้งหมด 100%
4. กรณีผู้เดินทางถูกปฏิเสธการเข้า-ออกประเทศ ขอสงวนสิทธิ์ในการไม่คืนเงินค่าทัวร์ทั้งหมด
5. เมื่อออกเดินทางแล้ว หากท่านไม่ใช้บริการรายการใดรายการหนึ่ง หรือไม่เดินทางพร้อมคณะ ถือว่าท่านสละสิทธิ์ไม่อาจ เรียกร้องค่าบริการหรือเงินค่าทัวร์คืนได้
6. หากท่านยกเลิกไม่ว่ากรณีใดๆ จะต้องชำระค่าส่วนต่างกรณีที่กรุ๊ปออกเดินทางไม่ครบตามจำนวน (กรุณาสอบถาม รายละเอียดเพิ่มเติม)
7. กรณีจองทัวร์เดินทางช่วง วันหยุดเทศกาล, วันหยุดนักขัตฤกษ์, วันหยุดยาวต่อเนื่อง หากท่านมีการยกเลิก ทางบริษัทฯขอ สงวนสิทธิ์เก็บค่าทัวร์ทั้งหมด โดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ ทั้งสิ้น
35/32 จอมพล จตุจักร กรุงเทพ 10900