ทัวร์เกาหลี GRAND AUTUMN FESTA

คณะเดินทางพร้อมกันที่จุดหมาย สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ ชั้น 4 ณ เคาน์เตอร์ สายการบิน ASIANA AIRLINES โดยมีเจ้าหน้าที่จากบริษัทฯ คอยให้การต้อนรับ และอำนวยความสะดวกในเรื่องของเอกสาร ตลอดจนสัมภาระของท่าน (**โปรดแสดงเอกสารสำคัญตามมาตรการการเดินทางเข้าประเทศเกาหลีใต้ ณ วันเดินทาง และพาสปอร์ตให้แก่เจ้าหน้าที่ในวันเดินทาง) หลังจากเช็คอินและโหลดสัมภาระเรียบร้อยแล้ว นำท่านออกเดินทางสู่ประเทศเกาหลีใต้

ยอจูพรีเมียมเอาท์เล็ต เปิดให้บริการ ตั้งแต่ ค.ศ. 2007 เป็นห้างสรรพสินค้าเอาท์เล็ต ระดับพรีเมียมแห่งแรกของเกาหลีใต้ ที่มีร้านค้ามากกว่า 270 ร้าน สำหรับแบรนด์หรูยอดนิยมกว่า 140 แบรนด์ รวมถึง 30 แบรนด์ สุดพิเศษ ที่เปิดให้บริการเฉพาะในเอาท์เล็ตแห่งนี้เท่านั้น ต่างพร้อมใจกันมอบ ส่วนลดสุดพิเศษ 25 – 65% ตลอดทั้งปี ที่การันตีได้ว่าราคาถูกกว่าร้านดิวตี้ฟรี จากส่วนลดดังกล่าว นอกจากนี้ด้วยพื้นที่มากกว่า 453,100 ตารางฟุต ที่เปิดโล่งสู่ธรรมชาติท่ามกลางบรรยากาศ ที่งดงามแปลกตา ทำให้การช้อปปิ้งเพลินเพลิน และเปี่ยมไปด้วยความสุข ทั้งนี้ยังมีกิจกรรมต่างๆ ให้ร่วมสนุกและสร้างสีสัน ตามเทศกาลสำคัญต่างๆ หมุนเวียนตลอดปี..และที่ยอจูพรีเมียมเอาท์เล็ตแห่งนี้ ได้จัดเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย สำหรับผู้มาใช้บริการ ตลอดจนร้านอาหาร และเครื่องเล่นสำหรับเด็ก..สมกับที่เป็น “พรีเมียมเอาท์เล็ตแห่งแรกของเกาหลีใต้”

รับประทานอาหาร ณ ภัตตาคาร บริการท่านด้วย เมนูพุลโกกิ (BULGOGI) เมนูที่มีส่วนผสม หมูหมักชิ้นบางๆ ปลาหมึกสดๆ ผักต่างๆ นำมาต้มรวมกัน โดยสามารถทานได้ทั้งแบบแห้งและน้ำ พร้อมเครื่องเคียงต่างๆ ได้แก่ ถั่วงอกดอง วุ้นเส้นปรุงรสสาหร่าย กิมจิ

ห้องสมุดซูวอนสตาร์ฟิลด์ ที่อาจจะกล่าวได้ว่า เป็นห้องสมุดในห้างสรรพสินค้าที่ใหญ่ที่สุด ในเกาหลีใต้ในเวลานี้ ทั้งยังมีขนาดพื้นที่ใหญ่กว่าห้องสมุดสตาร์ฟิลด์ ในกรุงโซลถึง 3 เท่า ที่ครอบคลุมพื้นที่ตั้งแต่ชั้น 4 ถึง ชั้น 7 ซึ่งมีความสูงถึง 22 เมตร และมีหนังสือมากกว่า 3,500 เล่ม ที่ได้รับการออกแบบเป็นพิเศษ ให้แสงธรรมชาติสาดส่องเข้ามาจากหน้าต่างโปร่งแสง ที่ทำให้ห้องสมุดแห่งนี้ดูโปร่งโล่งมากยิ่งขึ้น ด้วยกลุ่มเป้าหมายที่ถูกวางไว้สำหรับกลุ่มวัยรุ่นที่ อายุระหว่าง 20 - 30 ปี รวมถึงสถานที่พักผ่อน และแหล่งความรู้สำหรับครอบครัว ที่ห้องสมุดแห่งนี้จึงมีแบรนด์สินค้าสำหรับวัยรุ่น คาเฟ่แบรนด์ดังทั้งของเกาหลี และต่างประเทศ ที่น่าสนใจเป็นพิเศษ คือ ไวนิลซูวอน คาเฟ่ที่มีแผ่นเสียงแบบโบราณไว้ให้บริการกับคอนเซ็ปที่ว่า..จิบกาแฟ ฟังแผ่นเสียง และมองเมียงกับวิวห้องสมุดสุดฟิน รวมถึงร้านขนมปังเบเกิลชื่อดัง อย่างลอนดอนเบเกิลมิวเซียม กับรสชาติ สีสัน และรูปลักษณ์ที่เป็นเอกลักษณ์ ตลอดจนร้านสินค้าแบรนด์เนม ร้านอาหารต่างๆ ที่มีไว้สำหรับบริการในห้องสมุดแห่งนี้..ห้องสมุดที่เป็นมากกว่าห้องสมุด ที่ให้ความรู้ แต่เป็นห้องสมุดที่จะมอบความสุข สำหรับผู้มาเยือนทุกคน

ทุ่งหญ้าสีเงินแห่งสวนฮวาซอ สวนฮวาซอได้รับการสร้างขึ้น ใน ค.ศ. 2004 หลังจากที่ได้มีการรื้อถอนที่พักอาศัย และแหล่งเสื่อมโทรมในย่านนี้ออกไป และเพื่อการปรับปรุงภูมิทัศน์โดยรอบป้อมปราการฮวาซอง โดยภายในสวนแห่งนี้ได้มีการปลูกพันธุ์ไม้นานาชนิด ที่จะเสริมให้ตัวป้อมปราการตระหง่าน และงดงามโดดเด่นน่าเกรงขาม จึงมีการปลูกหญ้าสีเงิน ที่ในย่ามสายลมแห่งฤดูกาลใดก็ตามที่พัดผ่านมา ต้นหญ้าเหล่านี้ก็จะพลิ้วไหว และเปลี่ยนสีสันไปตามช่วงเวลานั้นๆ โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี..ต้นหญ้าสีเงินนี้ ยังพาเราย้อนกลับไปเพื่อรับรู้ถึงภูมิปัญญาของชนชาติเกาหลี ในสมัยก่อนมีการนำต้นหญ้าสีเงินเหล่านี้ มาทำธนูไฟ และยังเป็นวัสดุเพื่อมุงหลังคาของบ้านเรือนในอดีต ทั้งยังมีสรรพคุณเป็นสมุนไพรรักษาโรคต่างๆ ได้อีกด้วย..ในสวนแห่งนี้มีประติมากรรม ที่ทำเป็นป้ายชื่อของสวน ที่มิใช่มีไว้เพียงแต่บอกชื่อเท่านั้น แต่ยังเป็นสัญลักษณ์เพื่อบอกถึงจุดเริ่มต้น ของการปีนเขาพัลดาล ภูเขาที่อยู่ในกลางเมืองซูวอน

ป้อมปราการฮวาซอง เป็นป้อมที่สร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์โชซอน ภายใต้กษัตริย์เซจง ตั้งแต่ ปี ค.ศ. 1752 -1800 มีกำแพงป้อมปราการขนาดใหญ่ ที่สร้างจากซ้อนหินและอิฐขนาดใหญ่ มีความสูงประมาณ 4-6 เมตร และความยาวประมาณ 5.7 กิโลเมตร ยาวรอบเมือง ป้อมแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นอย่างเป็นระบบ โดยใช้ผู้มีความเชี่ยวชาญในทุกแขนง ทั้งศิลปะ สถาปัตยกรรม และความรู้ทางวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวข้อง พร้อมกับเหล่าบรรดาช่างฝีดีที่ได้รับการคัดเลือกมาจากทั่วประเทศ ด้วยเหตุนี้เองป้อมฮวาซองจึงได้รับความสนใจ และได้รับการยกย่องในทุกด้าน รวมถึงยังเป็นสถานที่ที่เป็นแหล่งเรียนรู้เรื่องราวทางประวัติศาสตร์ และที่สำคัญยังได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลก ทางวัฒนธรรมขององค์กร UNESCO เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม ค.ศ. 1997 ป้อมฮวาซองแห่งนี้ได้รับการดูแลอย่างดีเสมอมา โดยอนุรักษ์ให้คงสภาพเดิมมาได้จวบจนปัจจุบัน

รับประทานอาหาร ณ ภัตตาคาร บริการท่านด้วย บาร์บีคิว บุฟเฟ่ต์ อาหารปิ้งย่างสไตล์เกาหลี มีเนื้อสัตว์หลากหลายให้เลือกรับประทาน เสิร์ฟพร้อมเครื่องเคียง

หลังจากนั้นนำท่านเข้าสู่ ที่พัก SUWON HOTEL หรือเทียบเท่า โรงแรมมาตรฐานเกาหลีใต้

รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

เอเวอร์แลนด์ธีมปาร์ค สวนสนุกที่ใหญ่ที่สุดของเกาหลีใต้..ในฐานะที่เป็นสวนสนุกขนาดใหญ่ที่สุดของเกาหลีใต้ เอเวอร์แลนด์ รีสอร์ท (Everland Resort) ที่เต็มไปด้วยความสนุกสาน ความตื่นเต้นกับบรรดาเครื่องเล่น และกิจกรรมต่างๆ มากมาย โดยเฉพาะกับรถไฟเหาะตีลังกา ที่มีชื่อว่า “T-Express” ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในรถไฟเหาะตีลังกา ที่สร้างรางไว้บนโครงสร้างไม้ ที่ให้ความตื่นเต้นที่สุดอีกแห่งของโลก..ด้วยอาณาบริเวณที่กว้างใหญ่ไพศาล มีการจัดเทศกาลต่างๆ ตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะ “เทศกาลดอกไม้” ที่ถูกนำมาประดับประดาทั่วทั้งสวน ที่มีการสลับหมุนเวียนไปตลอดทั้งปี ความงดงาม และความหอมอบอวลจึงปกคลุมไปทั่วอาณาบริเวณ และมิใช่เพียงเทศกาลดอกไม้เท่านั้น ยังมีเทศกาลที่จัดขึ้นตามเทศกาลสำคัญของโลก และของเกาหลี ไม่ว่าจะเป็นฮาโลวีน คริสต์มาส รวมถึงในช่วงเย็นของทุกวัน ยังมีขบวนพาเหรดประจำวัน ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยว และผู้มาเยือนจำนวนมากให้ร่วมหรรษาไปพร้อมกัน กับเหล่ามาสคอต และตัวการ์ตูนที่เด็กๆ และทุกๆ คน ชื่นชอบ Zootopia และ Lost Valley เป็นอีกจุดเด่นของสวนสนุกแห่งนี้ ที่ได้รวมสวนสนุก และสวนสัตว์ไว้ในที่แห่งเดียวกัน โดยจัดเป็นสวนสัตว์ป่าซาฟารี ที่สามารถนั่งรถสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบก ชมสัตว์พันธุ์หายากจากทั่วทุกแห่งทั่วโลกมารวมไว้ โดยสวนสัตว์ทั้ง 2 จุดนี้ มีสัตว์กว่า 2,000 ชนิด นอกจากนี้ยังมี สวนน้ำคาริเบี้ยน เบย์ (Caribbean Bay) พร้อมด้วยเครื่องเล่นทางน้ำนานาชนิด ตลอดจนสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันไว้ให้บริการทั้งกลางแจ้ง และในร่ม..และที่สำคัญที่นี่ ยังเป็นที่ทุกท่านจะได้ชื่นชมกับความงดงามของเหล่าพฤกษาน้อยใหญ่ ทั้งในสวนละภูเขาโดยรอบ ที่ต่างอวดสีสันงดงามสุดท้ายก่อนผลัดใบ

คูปองอาหาร-โดยลูกค้าสามารถเลือกใช้สิทธิ์ตามเงื่อนไข ของคูปองอาหารได้อย่างอิสระตามอัธยาศัย ที่ Everland โดยภายในสวนสนุกมีโซนอาหารที่หลากหลาย ทั้งแบบตะวันตก และตะวันออก หรือเป็นแบบเกาหลีต้นตำรับก็มีไว้สำหรับบริการด้วย

ความงดงามของสถาปัตยกรรมของที่พักอาศัย แบบเกาหลีโบราณ ได้รับการสืบทอดขึ้นใหม่อีกครั้ง ณ หมู่บ้านวัฒนธรรมอึนพยอง..หมู่บ้านแห่งนี้ได้รับการสร้างขึ้นใหม่ทั้งหมด ใน เดือนธันวาคม ปี ค.ศ. 2014 เพื่อเป็นที่พักอาศัย ด้วยทำเลที่ตั้ง ณ เชิงเขาบุกฮันอันยิ่งใหญ่ และสงบเงียบ ทุกมุมของที่นี่จะพาคุณย้อนไปในอดีตอันรุ่งเรืองและงดงามได้อย่างตื่นตาตื่นใจ นอกจากจะเป็นที่พักอาศัยแล้ว ที่นี่ยังมีร้านค้าต่างๆ  และที่สามารถดึงดูดผู้คนมากที่สุด คือคาเฟ่หลายแห่ง ซึ่งบอกเลยว่ากาแฟหลักร้อย แต่วิวหลักหลายสิบล้านจริงๆ

อิลอิน อิลจันคาเฟ่ คาเฟ่ที่นำความคลาสสิกแบบเกาหลีย้อนยุค ผสานกับความทันสมัยสไตล์มินิมอล ที่ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่กลางหมู่บ้านวัฒนธรรมอึนพยอง ด้วยความสูงของอาคารที่สูงถึง 5 ชั้น พร้อมกับในส่วนของร้านจำหน่ายอาหาร และเครื่องดื่มที่อยู่ชั้น 4 ชั้น 5 และชั้นดาดฟ้า...ทำให้ผู้มาใช้บริการสามารถดื่มด่ำได้ทั้งทิวทัศน์โดยรอบของหมู่บ้าน และรสชาติของเครื่องดื่มหลากหลายที่มีไว้ให้บริการ ในมุมมองที่แตกต่าง และตระการตาเหนือกว่าใคร..ถึงแม้ชื่อร้านที่เมื่อแปลเป็นภาษาไทยอาจจะแปลว่า “หนึ่งคน หนึ่งแก้ว” แต่วิวแบบนี้ บวกกับรสชาติของกาแฟ ชา เครื่องดื่มร้อนเย็น รวมถึงขนมทั้งเบเกอรี่แบบยุโรป และขนมเกาหลีแบบโบราณ กับการตกแต่งภายในที่มีรูปแบบเป็นเอกลักษณ์แบบบ้านเกาหลีโบราณ อาจจะต้องต่อท้ายชื่อร้านว่า “หนึ่งคน หนึ่งแก้ว และหนึ่งวิวที่ห้ามพลาด”

ศูนย์เครื่องสำอาง ที่ซึ่งทุกท่านจะสามารถเลือกซื้อเครื่องสำอาง ที่เหมาะกับผิวพรรณของแต่ละท่าน เพื่อการบำรุง รักษาหรือฟื้นฟูสภาพผิวให้กลับมาสดใสขึ้นอีกครั้ง จากส่วนผสมของธรรมชาติ หรือจากเวชสำอางที่ผลิตหรือรับรองโดยประเทศเกาหลี ที่คุณภาพดีในราคาย่อมเยา ไม่ว่าจะครีม เซรั่ม หรือผลิตภัณฑ์ทั้งผิวหน้าและผิวกาย ที่รับรองว่า หากลองใช้แล้วจะหน้าใสเหมือนหนุ่มสาวเกาหลีขึ้นมาบ้างแน่นอน

ฮงแดวอร์คกิ้งสตรีท ย่านมหาวิทยาลัยฮงอิก ซึ่งมีชื่อเสียงด้านศิลปะ ที่นี่จะมีบรรดานักศึกษานำของประดิษฐ์จากแฮนด์เมด มาวางจำหน่ายและมีร้านขายสินค้าประเภทเครื่องเขียน งานไอเดีย ร้านอาหารหลากหลายประเภท ตลอดจนคาเฟ่ ที่ถูกใจเหล่าวัยทีน วัยอุดมศึกษา..และย่านนี้เองเหล่าไอดอลจากทุกช่องทางนิยม มาแสดงดนตรี ร้องเพลง เต้น หรือทำกิจกรรมต่างๆ เพื่อแสดงความสามารถกันในย่านนี้..

รับประทานอาหาร ณ ภัตตาคาร บริการท่านด้วย เมนู จิมดัก (JIMDAK) เป็นเมนูไก่ประกอบด้วย วุ้นเส้นเกาหลี คลุกด้วยน้ำซุป รสชาติกลมกล่อม เสิร์ฟพร้อมข้าวสวยร้อนๆ พร้อมเครื่องเคียงเกาหลี

หลังจากนั้นนำท่านเข้าสู่ ที่พัก SEOUL HOTEL หรือเทียบเท่า โรงแรมมาตรฐานเกาหลีใต้

รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

พระราชวังต็อกซู หรือในความหมายที่ว่า “พระราชวังแห่งคุณความดี” แต่เดิมที่นี่เป็นเพียงวังเล็กๆ ของเจ้าชายในราชวงศ์โชซอนเท่านั้น ต่อมาในภายหลังได้กลายเป็นพระราชวังชั่วคราว ในครั้งสงครามอินจิน เนื่องจากพระราชวังเดิมถูกเผาทำลาย พระราชวังแห่งนี้ จึงเป็นสถานที่อันทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ และเป็นหนึ่งในห้าพระราชวัง ที่มีความสำคัญมากที่สุดของราชวงศ์โชซอน และของประเทศเกาหลีใต้อีกด้วย สำหรับพระราชวังต็อกซูแห่งนี้ เป็นพระราชวังเก่าแก่ที่มีอายุยาวนานกว่า 550 ปี ตั้งแต่ราว ปี ค.ศ. 1454 แต่เดิมเรียกว่า “คยองกุง” สำหรับในปัจจุบันตั้งอยู่ใจกลางอาคาร ย่านแหล่งท่องเที่ยวมากมาย ภายในพระราชวังมีสิ่งที่น่าสนใจมากมาย เช่น ประตูหลักแทฮันมุน, หอระฆังกวางเมียนมุน, พระที่นั่งชุงวาจอน, ท้องพระโรง และอื่นๆ อีกมากมายนอกจากนี้ ภายในรั้วของพระราชวังยังมี พิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งชาติต็อกซูกุง ให้ได้ศึกษาประวัติศาสตร์โบราณของชาวเกาหลีอีกด้วย

ศูนย์สมุนไพรเพื่อสุขภาพ ที่ซึ่งรวบรวมเอาสมุนไพรที่มีสรรพคุณในการบำบัดรักษา และเสริมสร้างสุขภาพมารวมไว้ด้วยกัน เริ่มจากสมุนไพรโสมเกาหลี หรือราชาแห่งมวลสมุนไพร เพราะเกาหลีใต้เป็นประเทศ ที่มีการผลิตโสมเกาหลีที่มีคุณภาพเป็นอันดับ 1 ของโลก และมีคุณประโยชน์นานัปการ เช่น ช่วยเสริมความแข็งแรงให้แก่ระบบย่อยอาหารและปอด ช่วยทำให้จิตใจสงบและเพิ่มพละกำลัง โดยมีสรรพคุณทางการแพทย์ ช่วยบำรุงหัวใจของคุณได้เป็นอย่างดี ช่วยป้องกันโรคหัวใจขาดเลือด ฯลฯ  สมุนไพรฮ๊อกเกตนามู ใหม่ล่าสุดของเกาหลี โดยมีการจดลิขสิทธิ์เรียบร้อยแล้ว สรรพคุณช่วยในการล้างสารพิษที่ตกค้าง หรือไขมันที่สะสมอยู่ภายในผนังของตับ ไต ช่วยให้ตับ หรือไตของท่านแข็งแรงขึ้น และยังส่งผลดีต่อสุขภาพร่างกายของท่านเองอีกด้วย น้ำมันสนเข็มแดง ผลิตจากใบสนเข็มแดงในประเทศเกาหลี ที่มีสรรพคุณ ช่วยชะล้างไขมันในเส้นเลือด เพื่อป้องกันการอุดตันของเส้นเลือด พร้อมชมการสาธิต เพื่อให้ให้ท่านได้เห็นสรรพคุณอย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น

รับประทานอาหาร ณ ภัตตาคาร บริการท่านด้วย หมูผัดซอสเกาหลี เป็นหนึ่งในเมนูที่รู้จักกันดีที่ใช้วัตถุดิบชั้นดี หมักในซอสพริกตำรับแท้ของเกาหลี รสชาติเผ็ดนิด หวานหน่อย รับประทานคู่กับข้าวสวยร้อนๆ หรือวางหมูลงบนผักสด พร้อมด้วยเครื่องเคียงต่างๆ ห่อเป็นคำรับประทานได้ตามใจชอบ

จากนั้นนำท่านช้อปปิ้งสินค้าปลอดภาษีที่ ดิวตี้ฟรี (DUTY FREE) ที่นี่มีสินค้าชั้นนำให้ท่านได้เลือกซื้อมากมายกว่า 500 ชนิด ทั้ง น้ำหอม เสื้อผ้า เครื่องสำอาง กระเป๋า นาฬิกา เครื่องประดับ ฯลฯ

สู่ที่สุดของการช้อปปิ้งที่ ศูนย์รวมของวัยรุ่นเกาหลีเมียงดง ได้ชื่อว่าเป็นแหล่งรวมแฟชั่นแบรนด์เกาหลีชั้นนำ ซึ่งในแต่ละวันจะมีวัยรุ่นเกาหลีมาเดินช้อปปิ้งกันอย่างล้นหลาม ท่านสามารถหาซื้อสินค้าได้อย่างหลากหลายทั้งเสื้อผ้า, รองเท้า, กระเป๋า, เครื่องสำอาง ซึ่งเป็นที่รู้จักอย่างดีของคนไทย อาทิ LANEIGE, ETUDE, IOPE, CHARMZONE, SKIN FOOD, THE FACE SHOP เป็นต้น ยังมีเสื้อผ้า เครื่องประดับ, ซีดีเพลง, วีซีดี-ดีวีดีหนัง และซีรีย์ยอดฮิต ตลอดจนของที่ระลึกที่มีรูปดาราคนโปรดของท่านอยู่ในสินค้า หลากหลายชนิดให้ได้เลือกซื้อกัน..หรือจะเลือกเดินตรงขึ้นเนินไปไม่ไกลนัก จะพบกับโบสถ์คาทอลิกหลังใหญ่ ซึ่งเป็นโบสถ์ประจำเขตปกครองกรุงโซล ตั้งตระหง่านอยู่บนเนิน หรือชื่ออย่างเป็นทางการคือ “อาสนวิหารพระนางมารีย์ผู้ปฏิสนธินิรมล” นอกจากจะได้ชมกับสถาปัตยกรรมที่สร้างมากว่า 130 ปี โดยรอบอาสนวิหารถูกตกแต่งด้วยศิลปะ แบบเกาหลีซึ่งที่นี่คุณอาจจะเห็นรูปปั้นพระเยซู ที่แปลกออกไป และที่พลาดไม่ได้ ดารานักร้องเกาหลีจำนวนไม่น้อยที่เป็นคาทอลิก เดินทางมาโบสถ์ที่แห่งนี้ เพื่อขอพรจากพระแม่มารีย์ โดยพระรูปของพระแม่ที่เป็นองค์อุปถัมภ์ประดิษฐานอยู่ในถ้ำที่จำลองมาจากเมืองลูร์ด ในประเทศฝรั่งเศส ที่ซึ่งเชื่อว่าพระแม่ประจักษ์มา

อิสระอาหารเย็น ณ ศูนย์รวมของวัยรุ่นเกาหลีเมียงดง ท่านสามารถเลือกเมนูเด็ดทั้งจากในร้าน ที่มีนับร้อยร้านในย่านดังกล่าว หรือจะเลือกสตรีทฟู้ดสไตล์เกาหลีที่มีอยู่ทุกตรอก ซอกซอยในย่านนี้อีกด้วยเช่นกัน..

หลังจากนั้นนำท่านเข้าสู่ ที่พัก SEOUL HOTEL หรือเทียบเท่า โรงแรมมาตรฐานเกาหลีใต้

รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

พิพิธภัณฑ์สาหร่าย ที่บอกเล่า และรวบรวมเรื่องต่างๆ เกี่ยวกับสาหร่าย อาหารชั้นยอดของเกาหลีใต้ ที่กลายเป็นส่วนหนึ่งของ วัฒนธรรมการประกอบอาหารของชนชาติเกาหลี..“ข้าวห่อสาหร่าย” อาหารประจําชาติเมนูขึ้นชื่อ..เมื่อไปถึงถิ่นกำเนิดของเมนู ขอเชิญชวนทุกท่านเรียนรู้การทำข้าวห่อสาหร่ายด้วยตัวเอง พร้อมกับใช้โอกาสนี้ ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในวัฒนธรรม การแต่งกายชุดประจำชาติอันงดงามของแดนโสมขาว โดยใส่ชุดฮันบกหลากหลายแบบที่มีไว้ให้เลือก พร้อมถ่ายรูปกับฉากและพร็อพที่เตรียมไว้ เก็บเป็นที่ระลึกว่าครึ่งหนึ่ง ว่าเราได้เคยมาเยือนดินแดนที่มีวัฒนธรรมอันงดงามหลากหลายเช่นนี้

รับประทานอาหาร ณ ภัตตาคาร บริการท่านด้วยบิบิมบับหรือข้าวยำเกาหลี มาพร้อมกับซุปร้อนๆ เสิร์ฟมาเป็นชามข้าวสวยร้อน โรยหน้าด้วยผักที่ผัด และปรุงรสแล้ว, โคชูจัง (น้ำพริก) หรือทเว็นจัง (เต้าเจี้ยว) นอกจากนี้ยังนิยมใส่ไข่ดิบ ไข่ดาว หรือไข่ลวก และเนื้อสัตว์ที่หั่นบางๆ เช่นกัน จากนั้นคลุกส่วนผสมต่างๆ ให้เข้ากันดีก่อนรับประทาน

ศูนย์พลอยแอเมทิสต์ ศูนย์ที่รวบรวมพลอยสีม่วงที่มีชื่อเสียงของประเทศเกาหลี มาไว้ให้คุณได้เลือกหา ในรูปแบบต่างๆ หลากหลายแบบ หลากหลายดีไซน์ สำหรับพลอยสีม่วงหรือแอเมทิสต์นั้น ชาวเกาหลีเชื่อว่า ถ้าครอบครองพลอยชนิดนี้ติดตัวไว้จะทำให้มีโชคลาภและสิ่งดีๆ เกิดขึ้นในชีวิต บางตำรายังเชื่ออีกว่า สามารถรักษาอาการนอนไม่หลับไปจนถึงอาการปวดหัว และนำความสงบมาสู่จิตใจของผู้ใส่ได้

หลังจากนั้นได้เวลานำท่านสู่ สนามบินอินชอน เพื่อเตรียมตัวเดินทางกลับกรุงเทพฯ ระหว่างทางแวะช้อปปิ้งที่ KOREAN SUPERMARKETเพื่อซื้อของฝากที่ระลึก มีร้านขนมพื้นเมืองเกาหลีหลากหลายชนิด กิมจิ ไก่ตุ๋นโสมที่บรรจุอยู่ในถุงสุญญากาศ ตะเกียบ ถ้วยใส่ข้าว ฯลฯ

ได้เวลานำท่านออกเดินทางสู่ สนามบิน
ออกเดินทางจาก ท่าอากาศยานนานาชาติอินชอน สู่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ