21.00 น. คณะพร้อมกัน ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ สายการบิน Royal Jordanian (RJ) โดยมีเจ้าหน้าที่คอยต้อนรับและอำนวยความสะดวก
00.25 น. ออกเดินทางสู่ ประเทศจอร์แดน โดยสายการบิน Royal Jordanian (RJ) เที่ยวบิน RJ 183
05.00น. เดินทางถึงสนามบินนานาชาติ Queen Alia กรุงอัมมาน (Amman) ประเทศจอร์แดน (Jordan) (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 5 ชั่วโมง) หลังจากนั้นผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมือง และศุลกากร
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองเพตรา (Petra) เมืองที่ถูกขนานนามว่าเป็น “มหานครศิลาทรายสีชมพู หรือ Rose City” และยังเป็นเมืองที่ได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลกจากองค์การ UNESCO ปี ค.ศ. 1985 และได้รับการยกย่องให้เป็น “1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของแห่งโลกใหม่ (New 7 Wonders of the World)” จากการตัดสินโดยการโหวตจากบุคคลนับล้านทั่วโลกในวันมหัศจรรย์ 07/ 07/ 07
นำท่านชม “นครเพตรา” มหานครสีดอกกุหลาบที่ซ่อนตัวอยู่ในหุบเขาวาดี มูซา (Wadi Musa Valley) หรือหุบเขาแห่งโมเสส ถูกสร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 4 ก่อนคริสตกาล โดยชาวนาบาเทียน (Nabataeans) และได้กลายมาเป็นนครแห่งการค้าขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นตลาดซื้อสินค้าสำคัญที่สุดของโลกตะวันออก ที่ต่อมาถูกละทิ้งเป็นเวลานานกว่า 700 ปี จนเมื่อมีนักสำรวจชาวสวิตเซอร์แลนด์ โยฮันน์ ลุควิก บวร์กฮาร์ท เดินทางผ่านมาพบ เห็นเข้าเมื่อปี พ.ศ. 2355 และนำไปเขียนในหนังสือชื่อ “TRAVEL IN SYRIA” จนทำให้เริ่มเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายจนถึงปัจจุบัน
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย จากนั้นนำ ให้ท่านได้ขี่ม้าระยะทางประมาณ 800 เมตร บนถนนทรายเพื่อชม เมืองเพตรา (Petra) (ไม่รวมค่าขี่ลา, ขี่อูฐ, รถม้าลาก หากท่านสนใจกรุณาติดต่อที่หัวหน้าทัวร์)
จากนั้นเดินเท้ากับเส้นทางมหัศจรรย์ที่เกิดจากการแยกตัวของเปลือกโลก และการซัดเซาะของน้ำเมื่อหลายล้านปีก่อน เดินชมความสวยงามของผาหินสีชมพูสูงชันทั้ง 2 ข้างทาง จนพบกับความสวยงามของมหาวิหารศักดิ์สิทธิ์ เอล คาซเนท์ (Al-Khazneh หรือ The Treasury) ซึ่งสันนิษฐานว่าสร้างในศตวรรษที่ 1-2 เป็นวิหารที่แกะสลักโดยเจาะเข้าไปในภูเขาสีชมพูทั้งลูก มีความสูง 40 เมตร และมีความกว้าง 28 เมตร วิหารแห่งนี้ได้ถูกออกแบบโดยได้รับอิทธิพลศิลปะของหลายชาติเข้าด้วยกัน เช่น อียิปต์, กรีก, นาบาเทียน ฯลฯ เดิมทีถูกเชื่อว่าเป็นที่เก็บขุมทรัพย์สมบัติของฟาโรห์อียิปต์ นักประวัติศาสตร์และนักโบราณคดีได้ลงความเห็นตรงกันว่า น่าจะสร้างขึ้นเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองให้กับผู้ปกครองเมือง และใช้เป็นสถานที่ทำพิธีกรรมทางศาสนา
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก PETRA SELLA HOTEL หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางไปยัง เมืองอคาบา (Aqaba) เมืองท่า และเมืองท่องเที่ยวตากอากาศที่สำคัญของประเทศจอร์แดน เป็นเมืองแห่งเดียวของประเทศจอร์แดนที่ถูกประกาศให้เป็นเมืองปลอดภาษี
นำท่านชม เมืองอคาบา แวะถ่ายรูปกับทะเลแดง (Red Sea) ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญทางประวัติศาสตร์ โดยทะเลแห่งนี้ครั้งนึงได้มีการกล่าวขานในพระคัมภีร์ของศาสนาคริสต์ว่า โมเสสได้ทำอัศจรรย์ โดยการชูไม้เท้าของเขา เพื่อแหวกทะเลแดงพาชาวอิสราเอลหนีให้รอดพ้นจากการเป็นทาสของอียิปต์เพื่อเดินทางไปสู่แผ่นดินแห่งพันธสัญญาที่พระเป็นเจ้าทรงมอบให้กับชาวอิสราเอล โดยทะเลแดงนี้มีน่านน้ำครอบคลุมถึง 4 ประเทศ ได้แก่ จอร์แดน, อิสราเอล, อียิปต์ และซาอุดิอาระเบีย
จากนั้นนำท่านล่องเรือท้องกระจก (Big Glass Boat) แล่นในทะเลแดง ให้ท่านได้เพลิดเพลิน และชมความใสของน้ำทะเล, ปะการัง, ปลาทะเลหลากชนิด, เม่นทะเล, แมงกะพรุน ฯลฯ
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ทะเลทรายวาดิรัม (Wadi Rum) ทะเลทรายแห่งนี้ในอดีตเป็นเส้นทางคาราวานจากประเทศซาอุฯ เดินทางไปยังประเทศซีเรีย และปาเสลไตน์ อีกทั้งยังเคยเป็นที่อยู่อาศัยของชาวนาบาเทียนก่อนที่จะย้ายถิ่นฐานไปสร้างอาณาจักรอันยิ่งใหญ่ที่เมืองเพตราในศึกสงครามอาหรับรีโวลท์ ระหว่างปี ค.ศ. 1916–1918 ทะเลทรายแห่งนี้ได้ถูกใช้เป็นฐานบัญชาการในการบของนายทหารชาวอังกฤษ “ที.อี. ลอว์เรนซ์” และ “เจ้าชายไฟซาล” ผู้นำแห่งชาวอาหรับ ร่วมรบกันขับไล่พวกออตโตมันที่เข้ามารุกรานเพื่อครอบครองดินแดน และต่อมายังได้ถูกใช้เป็นสถานที่จริงในการถ่ายทำภาพยนต์ฮอลลีวูดอันยิ่งใหญ่ในอดีตเรื่อง “LAWRENCE OF ARABIA” ซึ่งได้รับรางวัลออสการ์ได้ถึง 7 รางวัล และรางวัลจากสถาบันอื่นๆ มากกว่า 30 รางวัล นำแสดงโดย Peter O’Toole, Omar Sharif
นำท่านนั่งรถ Jeep 4WD รับบรรยากาศท่องทะเลทรายที่ถูกกล่าวขานว่าสวยงามที่สุดของโลกแห่งหนึ่ง ด้วยเม็ดทรายละเอียดสีชมพูอมส้มอมแดงอันเงียบสงบที่กว้างใหญ่ไพศาล สีของเม็ดทราบนั้นปรับเปลี่ยนไปตามแสงของดวงอาทิตย์
นำท่านชมน้ำพุแห่งลอว์เรนซ์ (Lawrence's Spring) สถานที่ในอดีตนายทหาร ทีอี ลอว์เรนซ์ ทหารชาวอังกฤษใช้เป็นสถานที่พัก และคิดแผนการสู้รบกันพวกออตโตมัน
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก LUXURY RUM MAGIC หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านสู่ เมืองอัลเครัค (Al-Kerak) ซึ่งตั้งอยู่บนที่ราบสูงขนาดใหญ่ให้ท่านได้เพลิดเพลินกับทิวทัศน์อันงดงามข้างทางระหว่างทางขึ้นสู่เขา โดยเฉพาะบริเวณที่ถูกเรียกขานกันว่าเป็น “แกรนด์แคนยอนแห่งจอร์แดน”
จากนั้นนำท่านชมปราสาทเครัคแห่งครูเสด (Kerak Castle) ซึ่งสร้างในปี ค.ศ. 1142 โดย ผู้ปกครอง Payen Le Boutieller ในอดีตเป็นเมืองศูนย์กลางขนาดใหญ่ของนักรบครูเสด และสร้างเพื่อควบคุมเส้นทางทั้งทางเหนือและใต้และใช้ในการต่อสู้ในสงครามครูเสดกับกองทัพมุสลิมจนกระทั่งในปี ค.ศ. 1187 ได้ถูกเข้าทำลายโดยนักรบมุสลิมภายใต้การนำทัพของซาลาดิน (Saladin)
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ทะเลเดดซี (Dead Sea) ซึ่งเป็นทะเลที่ถูกบันทึกลงใน กินเนสส์บุ๊ค (Guinness Book of World Records) ว่า “เป็นจุดที่ต่ำที่สุดในโลก” มีความต่ำกว่าระดับน้ำทะเลถึง 400 เมตร และเป็น “ทะเลที่มีความเค็มที่สุดในโลก” มากกว่า 20 เปอร์เซ็นต์ของน้ำทะเลทั่วไป ทำให้ไม่มีสิ่งมีชีวิตใดเลยอาศัยอยู่ได้ในท้องทะเลแห่งนี้
ให้ท่านอิสระในการลงเล่นน้ำทะเล และพิสูจน์ความจริงว่าสามารถลอยตัวได้จริงหรือไม่ (การลงเล่นน้ำในทะเลมีวิธีขั้นตอนการลงเล่น และข้อควรระวังต่างๆ ควรฟังคำแนะนำจากมัคคุเทศก์ท้องถิ่น)
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก GRAND EAST HOTEL RESORT AND SPA หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ เมืองมาดาบา (Madaba) หรือ “เมืองแห่งโมเสก” ชมโบสถ์กรีก-ออโธดอกซ์แห่งเซนต์จอร์จ (Greek Orthodox Church of St. George) ถูกสร้างในราวปี ค.ศ. 600 ยุคของไบแซนไทน์ ชมภาพแผนที่ดินแดนศักดิสิทธิ์แห่งเยรูซาเลม ตกแต่งโดยโมเสกสีต่างๆ ประมาณ 2.3 ล้านชิ้นแสดงถึงพื้นที่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ในแถบรอบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน, เยรูซาเล็ม, แม่น้ำจอร์แดน, ทะเลเดดซี, เขาไซนาย, อียิปต์ ฯลฯ นำท่านเดินทางขึ้นชมภูเขาเนโบ (Mount Nebo) ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ที่ตั้งอยู่บนเขาซึ่งเชื่อกันว่าน่าจะเป็นบริเวณที่เสียชีวิตและฝังศพของโมเสส ผู้นำชาวยิวที่นำพาชาวยิวเดินทางจากอียิปต์มายังเยรูซาเลม
ชมโบสถ์อนุสรณ์โมเสส (The Moses Memorial Church) ภายในโบสถ์ประกอบไปด้วยภาพโมเสกสีบนพื้นโบสถ์อันล้าค่า แสดงถึงภาพชีวิตสัมพันธ์ระหว่างคน, สัตว์, ธรรมชาติ และรูปคน เป็นต้น และยังมีแท่นพิธี, ม้านั่ง, ตามรูปแบบของศาสนาคริสต์ไว้ประกอบพิธีต่างๆ และอนุญาตให้ใช้ในปัจจุบัน ในปี ค.ศ. 2000 โป๊ป จอห์น ปอลที่ 2 เสด็จมาแสวงบุญที่นี่ และได้ประกาศให้เป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์
จากนั้นชมอนุสรณ์ไม้เท้าศักดิ์สิทธิ์แห่งโมเสส (The Serpentine Cross sculpture) ซึ่งมีลักษณะเป็นไม้เท้าในรูปแบบไม้กางเขน โดยอุทิศเป็นสัญลักษณ์ของโมเสส และพระเยซู ถ่ายรูป ณ จุดชมวิว โดยในวันที่ท้องฟ้าแจ่มใส ท่านสามารถมองเห็น แม่น้าจอร์แดน, ทะเลเดดซี, เมืองเบธเลเฮม และประเทศอิสราเอล ได้จากจุดนี้อย่างชัดเจน
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ นครเจอราช (Jerash) 1 ใน 10 หัวเมืองเอกตะวันออกอันยิ่งใหญ่ของอาณาจักรโรมัน โดยสันนิษฐานว่าเมืองนี้น่าจะถูกสร้างในราว 200 – 100 ปีก่อนคริสตกาล ในปี ค.ศ. 749 นครแห่งนี้ได้ถูกแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ทำลาย และถูกฝังกลบโดยทราย หลังจากนั้นก็ได้สูญหายไปเป็นนับพันปี
นำท่านชมซุ้มประตูกษัตริย์เฮเดรียน (Hadrian 's Arch) จากนั้นนำท่านเดินเข้าประตูทางทิศใต้ ชมโอวัลพลาซ่า (Oval Plaza) สถานที่ชุมนุมพบปะสังสรรค์ของชาวเมือง ชมโรงละครโรมันโบราณ (South Roman Theatre) ซึ่งก็คือโรงละครทางทิศใต้ สร้างในราวปี ค.ศ. 90-92 จุผู้ชมได้ถึง 3,000 คน มีจุดเสียงสะท้อนตรงกลางโรงละคร เชิญทดสอบกับความอัศจรรย์เพียงพูดเบาๆ ก็จะมีเสียงสะท้อนก้องเข้ามาในหูของเรา จากนั้นนำท่านชมน้ำพุใจกลางเมือง (Nymphaeum) ที่สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 191 เพื่ออุทิศแด่เทพธิดาแห่งขุนเขา ซึ่งเป็นที่นับถือของชาวเมืองแห่งนี้ มีที่พ่นน้ำเป็นรูปหัวสิงโตทั้งเจ็ด และตกแต่งด้วยเทพต่างๆ ประจำซุ้มด้านบนของน้ำพุ
นำท่านเดินทางกลับสู่ กรุงอัมมาน (Amman) นำท่านชมเมืองหลวงกรุงอัมมาน (Amman) เมืองหลวงที่ตั้งอยู่บนภูเขา 7 ลูก และมีประวัติศาสตร์ยาวนานมากกว่า 6,000 ปี ผ่านชมย่านเมืองเก่า เมืองใหม่, ย่านธุรกิจ, ตลาดใจกลางเมือง, ย่านคนรวย ฯลฯ จากนั้นนำท่านชม ป้อมปราการแห่งกรุงอัมมาน (Amman Citadel) ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นจุดสังเกตเหตุการณ์ต่างๆ รอบเมือง ให้ท่านอิสระถ่ายรูปตรงจุดชมวิวที่สวยที่สุดของเมืองแห่งนี้ โดยมีฉากหลังเป็นโรงละครโรมันที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศจอร์แดนที่สามารถจุผู้ชมได้ถึง 6,000 คน และตึกรามบ้านช่องที่ตั้งอยู่บนภูเขาสูงอันแปลกตายิ่งนัก
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
ได้เวลาพอสมควรนำท่านเดินทางสู่ สนามบินนานาชาติ Queen Alia กรุงอัมมาน (Amman) เพื่อเตรียมตัวเดินทางกลับสู่ประเทศไทย
02.35น. ออกเดินทางกลับสู่ ประเทศไทย โดยสายการบิน Royal Jordanian (RJ) เที่ยวบิน RJ 182
15.35 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ
ค่าตั๋วเครื่องบิน ชั้นประหยัด ( Economy Class) ที่ระบุวันเดินทางไปกลับพร้อมคณะ (ในกรณีมีความประสงค์อยู่ต่อ จะต้องไม่เกินจำนวนวัน และอยู่ภายใต้เงื่อนไขของสายการบิน)
ค่าภาษีสนามบินทุกแห่งตามรายการ
ค่ารถโค้ชปรับอากาศนำเที่ยวตามรายการ
ค่าห้องพักในโรงแรมตามที่ระบุในรายการหรือเทียบเท่า
ค่าอาหารตามที่ระบุในรายการ
ค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวตามรายการ
ค่าประกันภัยการเดินทางรายบุคคล (หากต้องการเงื่อนไขกรมธรรม์สอบถามได้จากเจ้าหน้าที่)
ค่าประกันอุบัติเหตุคุ้มครองในระหว่างการเดินทางวงเงินไม่เกินท่านละ 1,000,000 บาท
ค่ารักษาพยาบาลในกรณีเกิดอุบัติเหตุวงเงินไม่เกินท่านละ 500,000 บาท (ตามเงื่อนไขกรมธรรม์)
** ลูกค้าท่านใดสนใจ...ซื้อประกันการเดินทางสำหรับครอบคลุมเรื่องสุขภาพสามารถสอบถามข้อมูล เพิ่มเติมกับทางบริษัทได้ **
- เบี้ยประกันเริ่มต้น 341 บาท [ระยะเวลา 4-6 วัน]
- เบี้ยประกันเริ่มต้น 395 บาท [ระยะเวลา 7-10 วัน]
**ความครอบคลุมผู้เอาประกันที่มีอายุตั้งแต่แรกเกิด ถึง 85 ปี **
[รักษาพยาบาล 2 ล้าน, เสียชีวิตหรือเสียอวัยวะจากอุบัติเหตุ 1.5 ล้านบาท]
ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% (เฉพาะค่าบริการ)
ค่าธรรมเนียมการจัดทำหนังสือเดินทาง
ค่าใช้จ่ายส่วนตัว อาทิเช่น ค่าเครื่องดื่มที่สั่งพิเศษ, ค่าโทรศัพท์, ค่าซักรีด, ค่าธรรมเนียมหนังสือเดินทาง, ค่าน้ำหนักเกินจากทางสายการบินกำหนดเกินกว่า 30 กก. , ค่ารักษาพยาบาล กรณีเกิดการเจ็บป่วยจากโรคประจำตัว, ค่ากระเป๋าเดินทางหรือของมีค่าที่สูญหายในระหว่างการเดินทาง เป็นต้น
ค่าธรรมเนียมน้ำมันและภาษีสนามบิน ในกรณีที่สายการบินมีการปรับขึ้นราคา
ค่าบริการยกกระเป๋าในโรงแรม ซึ่งท่านจะต้องดูแลกระเป๋าและทรัพย์สินด้วยตัวท่านเอง
ค่าทิปพนักงานขับรถ และไกด์ท้องถิ่น (35 USD)
ค่าทิปมัคคุเทศก์จากเมืองไทย (โดยมาตรฐาน 21 USD)
เงื่อนไขการให้บริการ
1. ชำระเงินมัดจำท่านละ 40,000 บาท โดยโอนเข้าบัญชี ที่นั่งจะยืนยันเมื่อได้รับเงินมัดจำแล้วเท่านั้น
2. ส่งสำเนาหน้าพาสปอร์ตของผู้ที่เดินทาง ที่มีอายุการใช้งานไม่น้อยกว่า 6 เดือน เพื่อทำการจองคิวยื่นวีซ่า ภายใน 3 วันนับจากวันจอง หากไม่ส่งสำเนาหน้าพาสปอร์ตทางบริษัทขออนุญาติยกเลิกการจองทัวร์โดยอัตโนมัติ
3. เมื่อได้รับการยืนยันว่ากรุ๊ปออกเดินทางได้ ลูกค้าจัดเตรียมเอกสารให้การขอวีซ่าได้ทันที
4. หากท่านที่ต้องการออกตั๋วโดยสารภายในประเทศ (กรณีลูกค้าอยู่ต่างจังหวัด) ให้ท่านติดต่อเจ้าหน้าที่ก่อนออกบัตรโดยสารทุกครั้ง หากออกบัตรโดยสารโดยมิแจ้งเจ้าหน้าที่ ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ไม่รับผิดชอบ ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น
5. การยื่นวีซ่าในแต่ละสถานทูตมีการเตรียมเอกสาร และมีขั้นตอนการยื่นวีซ่าไม่เหมือนกัน ทั้งแบบหมู่คณะและยื่น รายบุคคล (แสดงตน) ท่านสามารถสอบถามข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจก่อนการจองได้จากทางเจ้าหน้าที่
6. หากในคณะของท่านมีผู้ต้องการดูแลพิเศษ นั่งรถเข็น (Wheelchair), เด็ก, ผู้สูงอายุ, มีโรคประจำตัว หรือไม่สะดวกใน การเดินทางท่องเที่ยวในระยะเวลาเกินกว่า 4-5 ชั่วโมงติดต่อกัน ท่านและครอบครัวต้องให้การดูแลสมาชิกภายในครอบครัวของท่านเอง เนื่องจากการเดินทางเป็นหมู่คณะ หัวหน้าทัวร์มีความจำเป็นต้องดูแลคณะทัวร์ทั้งหมด
35/32 จอมพล จตุจักร กรุงเทพ 10900